การแต่งงานแบบธรรมเนียมของจีน
ประเทศไทยเรานั้นมีคนเชื้อสายจีนอยู่เป็นจำนวนมาก จึงทำให้เราได้เห็นการแต่งงานตามธรรมเนียมจีนในบ้านเราอยู่บ่อยๆ แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นวิธีตามแบบเป๊ะทุกอย่างเพราะมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างตามกาลเวลา และมีวัฒนธรรมแบบฝรั่งเข้ามาผสมผสานด้วยส่วนหนึ่งจึงทำให้ดูเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
ขั้นตอนการแต่งงานแบบจีนมีรายละเอียดค่อนข้างมาก เริ่มตั้งแต่การสู่ขอการผูกดวงของเจ้าบ่าวเจ้าสาว หรือเรียกกันว่า ซึ้งเมี้ยดูฤกษ์ ดูยามวันหมั้น วันแต่งฤกษ์ปูเตียงนอน ฤกษ์ออกจากบ้านฝ่ายหญิง ฤกษ์เข้าบ้านฝ่ายชาย เรียกได้ว่าดูฤกษ์กันทุกขั้นตอนของการแต่งงานเลยก็ว่าได้
การเตรียมสินสอดทองหมั้น คนจีนจะเรียกว่า เพ้งกิมส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเครื่องประดับ 4 ชนิด หรือเรียกว่า สี่เอี่ยกิม ชาวจีนเชื่อว่าเลข 4 เป็นเลขมงคล คือ สร้อย กำไล ต่างหู และแหวน
ชุดขันหมากตามประเพณจีนที่ประกอบด้วย
- ผลไม้มงคลจำพวกส้มเช้ง จำนวนให้เป็นเลข 4 และ เลข 8 นิยมใช้ 44 หรือ 84 ผล กล้วย ควรใช้แบบที่ยังเขียวอยู่ทั้งเครือ อ้อย ใช้ทั้งต้นจำนวน 1 คู่ ซึ่งความหมายของอ้อยคือการให้ชีวิตคู่หวานชื่น
- หัวหมู พร้อมกับ 4 เท้า และหาย โดยเล็บเท้าหมูต้องตัดให้สะอาด
- ขนมที่ใช้ใส่ขันหมาก จะเป็นขนนมจันอับ ขนมเหนียวเคลือบเงา ขนมเปี๊ยะโรยงา ถั่วตัด ข้าวพองทึบ โกอ่อน ซาลาเปา พกท้อและคุกกี้
ของทุกอย่างใช้เป็นของเลขคู่และต้องติดกระดาษที่เป็นตัวหนังสือซังฮี่ ซึ่งหมายถึง คู่ยินดี หรือความสุขกำลังสอง?ต้องเตรียมของไหว้สำหรับไหว้เจ้าที่ และไหว้บรรพบุรุษที่บ้านเจ้าสาวด้วย โดยของไหว้ควรมีให้ครบทั้งคาว หวาน ผลไม้ เหล้า ดอกไม้ ธูปเทียน เส้นหมี่ ถือเป็นการอวยพรให้ชีวิตคู่ยืนยาว
ของที่ทางฝ่ายเจ้าสาวต้องจัดเตรียมเพื่อต้อนรับเจ้าบ่าว
- แหวนสำหรับเจ้าบ่าว
- เอี๊ยมผ้าแพรสีแดง ที่มีกระเป๋าปักตัวอักษรจีน แป๊ะนี้ไห่เล่า หมายถึง อยู่กินกันจนแก่ถึง 100 ปี และมีลายมังกร และหงส์ เรียกว่า เล้งหงกิ๊กเซี้ยง หมายถึงเวลาของความสุข และความรุ่งเรืองที่กำลังจะมาถึง ให้คู่บ่าวสาวพบกับสิ่งดีๆ ในชีวิตคู่
- ใส่เมล็ดธัญพืช 5 อย่าง คือ ข้าวเปลือก ข้าวสาร ถั่วเขียว สาคู ถั่วดำ เหรียญทองลายมังกร เป็นการอวยพรให้ร่ำรวย
- ต้นซุงเถ้า หน้าตาเหมือนต้นกุยช่าย
- เสียบปิ่น ยู่อี่ ที่ปากกระเป๋าเอี๊ยม โดย ยู่อี่ หมายถึง ขอให้สมปรารถนาในทุกเรื่อง หรือโชคดี รวมถึงนำสร้อยทองคล้องไว้ที่สายเอี๊ยมด้วย
- แผ่นหัวใจสีแดง ติดเครื่องประดับ
- กะลังมังแดง ถังน้ำแดง กระป๋องน้ำแดง อย่างละ 2 ใบ กระโถน 1 ใบ
- กระจก กรรไกร ด้าย เข็ม
- ถาดที่ใช้ใส่ตะเกียบ ชุดน้ำชา พัดแดงที่ใช้ถือตอนส่งตัว
- ชุดหมอนประกอบด้วย หมอนข้าง 1 คู่ หมอนหนุน 1 คู่ หมอนหนุนใบยาว ผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม อย่างละ 1
- หวี 4 เล่ม หมายถึง ทุกเวลาจะได้มีทรัพย์
- อาหารและผลไม้มงคล คือ ส้มเช้ง ไข่สีแดง โอวเต่ากิ๊ว พกท้อ ลำไยแห้ง หมายถึง ความหอมหวาน และใบทับทิม หมายถึงว่าให้โชค และเม็ดสาคูโรยบนของต่างๆ เป็นการให้คู่บ่าวสาวกลมเกลียวกันเหมือนเม็ดสาคู
- ชุดเนื้อสัตว์มงคล เช่นหมู
เมื่อได้ฤกษ์หมั้น เจ้าบ่าวก็จะยกขบวนขันหมาก สินสอดทองหมั้นให้เจ้าสาว สวมแหวนหมั้น เมื่อเสร็จพิธีก็จะรับประทานขนมบัวลอยมอบอั่งเปา และยกน้ำชาเป็นการยอมรับสะใภ้และลูกเขย เป็นอันเสร็จพิธีหมั้น
ในวันแต่งงานจริงๆ เจ้าสาวสวมชุด เสียบปั่นยู่อี่ และติดใบทับทิมที่ผม เมื่อใกล้ถึงเวลาเจ้าเสาวจะทานอาหารกับครอบครัวก่อนที่เจ้าบ่าวจะมารับตัว โดยในการรับประทานอาหารก็จะมีการอวยพรเจ้าสายด้วยการคีบอาหารให้ เอ่ยคำอวยพร
เมื่อเจ้าบ่าวมาถึงบ้านของเจ้าสาวอาจจะมีการกั้นประตูเงินประตูทอง ต้องจ่ายอั่งเปาเพื่อผ่านด่าน เจ้าสาวใส่ชุดแต่งงานถือพัดแดง ปิดผ้าคลุมหน้า รอเจ้าบ่าวมามอบช่อดอกไม้ และเปิดผ้าคลุมออก จากนั้นก็ทำพิธีไหว้ฟ้าดิน ไหว้เจ้าที่ ไหว้เทพเจ้าเตาไฟ และไหว้บรรพบุรุษฝ่ายเจ้าสาว ยกน้ำชาให้ญาติผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาว เมื่อเสร็จแล้วก่อนออกจากบ้านเจ้าสาว ทั้งคู่ต้องทานขนมอี้ หรือขนมบัวลอย
เมื่อเดินทางมาถึงบ้านเจ้าบ่าวแล้ว ก็ทำพิธีไหว้ฟ้าดิน ไหว้เจ้าที่ และไหว้เทพเจ้าเตาไฟ และไหว้บรรพบุรุษของเจ้าบ่าวด้วย จากนั้นก็ยกน้ำชาให้พ่อแม่ และญาติผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าว เสร็จแล้วบ่าวสาว ก็ทานขนมอี้อีกรอบ
เมื่อถึงเวลาส่งตัวเข้าห้องหอ ผู้ใหญ่ปูเตียงตามฤกษ์เรียบร้อยแล้ว ต้องวางส้มไว้ที่มุมเตียง และอีก 4 ผลวางใส่จานที่มีกระดาษตัวหนังสือซังฮี่และใบทับทิมไปวางกลางเตียง
ตื่นเช้ามาวันรุ่งขึ้น เจ้าสาวต้องยกน้ำล้างหน้าให้พ่อแม่สามีติดต่อกัน 3 วัน หลังจากนั้นน้องชายเจ้าสาวมารับทั้งคู่กลับไปทานข้าวที่บ้านของฝ่ายหญิงก็เป็นอันเสร็จพิธีแต่งงานตามแบบธรรมเนียมจีน
รูปภาพจาก:www.freshphotography.com
___________________________________________________________________________________