ตั้งครรภ์ก่อนถึงวันแต่งงานควรเตรียมตัวอย่างไรดี
การตั้งท้องก่อนแต่งงาน ถ้าเป็นสมัยก่อนก็อาจจะเป็นเรื่องที่ไม่น่ายินดีนักสำหรับสังคมไทยเรา แต่ถ้าพูดถึงปัจจุบันสังคมเรายอมรับกันมากขึ้นกับการที่หนุ่มสาวคบกันแล้วจะอยู่ด้วยกันก่อนแต่ง มีหลายๆ คู่ที่คบกันแล้วตกลงที่จะอยู่ด้วยกันโดยไม่แต่งงานไม่มีข้อผู้กมัดใดๆ หรือบางคู่แค่จดทะเบียนสมรสกันอย่างเดียวไม่ต้องมีพิธีแต่งงานจะเห็นว่าเมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป ค่านิยมต่างๆ ก็เปลี่ยนแปลงไปด้วย ดังนั้นการตั้งท้องก่อนแต่งงานจึงไม่ได้เป็นเรื่องแปลกสำหรับสังคมยุคปัจจุบัน
ว่าที่บ่าวสาวที่กำลังจะแต่งงานแต่พบว่าเจ้าสาวกำลังตั้งท้องก็จะต้องมีวิธีเตรียมตัวสำหรับงานแต่งมากกว่าคู่บ่าวสาวอื่นๆ ทั่วไป โดยเฉพาะเจ้าบ่าวนอกจากจะต้องดูแลจัดการให้เจ้าสาวแล้ว ก็ต้องคอยเป็นกำลังใจให้เจ้าสาวที่กำลังจะมีน้องด้วยนะคะสำหรับเจ้าบ่าวไม่มีปัญหาอะไรอยุ่แล้ว แต่เจ้าสาวที่ตั้งท้องต้องดูแลเรื่องชุดเป็นพิเศษ เพราะเราไม่ได้ลองชุดวันนี้แล้วแต่งพรุ่งนี้เลย กว่าจะเตรียมงานเสร็จซึ่งคนท้องหน้าท้องจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆหน้าท้องของผู้หญิงท้องแต่ละคนจะมีความแตกต่างกันไปตามอายุครรภ์
ปัจจุบันร้านชุดแต่งงานหลายๆ ร้าน มีชุดแต่งงานสำหรับเจ้าสาวที่กำลังตั้งครรภ์โดยเฉพาะ แนะนำให้บอกกับทางร้านไปเลยว่ากำลังตั้งครรภ์อยู่ เพราะถ้าเราไม่บอกจะทำให้เกิดผลเสียได้ เช่น วันลองชุด กับวันแต่งห่างกันมาก ท้องก็จะขยายขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ลำบากในการแก้ไขชุด
ชุดแต่งงานสำหรับคนท้องกับชุดสำหรับคนอ้วนไม่เหมือนกัน เพราะรูปลักษณ์ของหน้าท้องจะแตกต่างกัน ดังนั้นเจ้าสาวที่กำลังตั้งครรภ์ทั้งหลายไม่ต้องอายนะคะ บอกกับทางร้านไปเลยดีกว่า เค้าจะได้เลือกชุดที่เหมาะสมให้เราที่จะมามีปัญหาทีหลัง เพราะนอกจากความสวยงามแล้วต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของลูกน้อยด้วยนะคะ
นอกจากชุดแต่งงานแล้ว รองเท้าที่ใช้ใส่ในวันงานก็ต้องเลือกเป็นพิเศษ เพราะจะให้ใส่ส้นสูงแบบเจ้าสาวทั่วไปก็ไม่ได้ ถึงการใส่ส้นสูงจะไม่ส่งผลเสียต่อลูกน้อยในครรภ์โดยตรง แต่ก็มีความเสี่ยงในการหกล้มได้ง่าย ดังนั้นไม่คุ้มกันที่จะเสี่ยง รองเท้าที่เหมาะสมคงหนีไม่พ้นรองเท้าส้นเตี้ย เพราะรองเท้าส้นสูงทำให้มีอาการปวดหลัง เสี่ยงต่อการเกิดเท้าพลิก หกล้มได้ ตัวรองเท้าควรเป็นแบบหน้ากว้างเพราะสวมใส่สบายเลือกรองเท้าที่ระบายอากาศได้ดี พื้นรองเท้านุ่ม รองรับแรงกระแทกได้ ที่สำคัญพื้นรองเท้าต้องยึดเกาะผิว เพื่อป้องกันการลื่นล้มด้วยนะคะ
ที่สำคัญที่สุดคือช่วงระยะเวลาเตรียมตัวก่อนถึงงานแต่งงาน พยายามทำจิตใจให้สบาย ดูแลร่างกายให้แข็งแรง เนื่องจากช่วงตั้งท้องคุณแม่จะมีอารมณ์ค่อนข้างอ่อนไหวง่าย ดังนั้นว่าที่เจ้าบ่าวมีส่วนอย่างมากในการช่วยว่าที่เจ้าสาว และว่าที่คุณแม่ คุณต้องคอยเป็นกำลังใจ และคอยช่วยเหลือ ประคับประคองไปด้วยกันจนถึงวันงานการตั้งท้องไม่ใช่เรื่องที่น่าอายหรือเรื่องผิดปกติ การตั้งท้องเป็นเรื่องธรรมชาติที่เกิดขึ้นได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะปล่อยตัวปล่อยใจให้เกิดการตั้งท้องโดยที่ยังไม่พร้อมจนทำให้เกิดปัญหาตามมา ส่วนการแต่งงานเป็นการแสดงความเคารพให้เกียรติญาติผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่ที่สำคัญที่สุดคือชีวิตหลังแต่งงานที่ต้องสวมบทบาทคุณแม่ที่คอยดูแลลูก และสามีจะยากยิ่งกว่าการเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวอีกหลายเท่าเลยล่ะค่ะ
___________________________________________________________________________________