ชาติแรกในเอเชีย!!!ประเทศไต้หวันร่างกฎหมาย
เพื่อรับรองการแต่งงานระหว่างเพศเดียวกัน
เมื่อมาถึงยุคที่ประชาธิปไตยกำลังเบ่งบาน ความต้องการเสรีภาพจากทุกคนบนโลกก็มีเพิ่มมากขึ้น อยากเหตุการณืล่าสุดที่เกิดขึ้นที่ประเทศไต้หวันเมื่อทางการไต้หวันได้มีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายเกี่ยวกับความเสมอภาคในการแต่งงาน!! สร้างความดีใจให้กับคนที่รักประชาธิปไตยในประเทศไต้หวันมากๆ
ในวันที่ 24 พฤษภาคม 2017หลังจากที่มีการเรียกร้องและการเคลื่อนไหวมาอย่างยาวนาน ทางการไต้หวันได้ประกาศให้มีการปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับการแต่งงานของเพศเดียวกันโดยจะเตรียมประกาศใช้ภายใน 2 ปีนี้
คุณ?Chi Chia-weiนักกิจกรรมและนักเคลื่อนไหว กลายมาเป็นแกนนำในการเรียกร้องครั้งนี้ เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมาเขาถูกทางรัฐบาลปฏิเสธการแต่งงานของเขา กลุ่มผู้ที่ออกมาทำการเคลื่อนไหวนั้นมองว่ากฎหมายที่บัญญัติให้เฉพาะชายและหญิงสามารถแต่งงานกันได้ เป็นความไม่เสมอภาคและเป็นจำกัดสิทธิของประชาชนมากเกินไป พวกเขาจึงรวมตัวกันเพื่อออกมาเรียกร้องให้มีการแก้ไขกฎหมายในครั้งนี้
การเรียกร้องได้เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2017 และทางการเพิ่งจะประกาศการเปลี่ยนแปลงเมื่อเวลา 16.00 น. ตามเวลาในท้องถิ่น ของวันที่ 24 พฤษภาคม 2017 และด้วยเหตุนี้จึงทำให้ประเทศไต้หวัน เป็นชาติแรกในทวีปเอเชียที่จะได้รับอนุญาตให้มีการแต่งงานของเพศเดียวกัน แต่ถึงอย่างนั้นเหตุการณ์ในครั้งนี้ก็ยังมีคนที่ไม่เห็นด้วยอยู่ พวกเขามองว่าการกระทำนี้อาจจะทำให้เด็กๆในอนาคตสับสนได้ เพราะจริงๆแล้วโดยพื้นฐานนั้นการจัดงานแต่งงานควรเกิดขึ้นแค่เฉพาะชายกับหญิงเท่านั้น
หัวข้อเรื่องความเสมอภาคนี้ได้รับการเสนอเข้าสู่สภาของไต้หวันครั้งแรกเมื่อปี 2003 แต่ได้รับการปฏิเสธจากคณะรัฐมนตรีและพรรคอนุรัษ์นิยมอย่างพรรคก๊กมินตั๋ง (KMT) แต่เมื่อเดือนมกราคาคม ปี 2016 ที่ผ่านมาทางพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า(DPP) ชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงอย่างท่วมท้นและทำให้กลุ่มผู้เรียกร้องมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง ประธานาธิปดีTsai Ing-wenให้ความสำคัญกับเสรรีภาพในการแต่งงานของเพศเดียวกัน ในปี 2015Tasi ได้โพสวิดีโอลงบนเฟซบุ๊กของเธอเพื่อสนับสนุนในเรื่องของเสรรีภาพในการแต่งงานพร้อมทั้งข้อความที่บอกว่า “เสรีภาพในความรักนั้นคือการเลือกความสุขด้วยตัวเอง”ต่อมาชาวจีนที่นิยมการรักร่วมเพศก็ยังต้องการที่จะย้ายถิ่นฐานไปยังไต้หวัน เนื่องจากประเทศจีนยังคงมีแนวคิดอนุรักษ์นิยมอยู่ และยังไม่มีทีท่าว่าจะสนับสนุนแนวคิดดังกล่าวแม้แต่นิดเดียว
ที่มา?shanghaiist
_____________________________________________________________________________________